TBS234
พระบูชาหลวงพ่อเหลือ วัดสร้อยทอง
บางซื่อ กรุงเทพมหานคร
หน้าตัก 5 นิ้ว
เนื้อทองเหลือง (รมดำ)
ประวัติหลวงพ่อเหลือ วัดสร้อยทอง
หลวงพ่อเหลือ เป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ประจำวัดสร้อยทอง เขตบางซื่อ กรุงเทพฯ เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย เนื้อทองสำริด หน้าตักกว้าง 52 นิ้ว ประดิษฐานในพระวิหารวัดสร้อยทอง
หลวงพ่อเหลือ ได้มีการเททองหล่อในสมัยหลวงปู่เบี้ยวเป็นเจ้าอาวาสในปี พ.ศ.2454 หล่อจากทองเหลืองที่เหลือจากการหล่อพระประธานพร้อมกับพระพุทธรูปปางปาลิไลยก์ จึงได้ชื่อว่า หลวงพ่อเหลือ
ภายในเกศขององค์หลวงพ่อเหลือ แต่เดิมสามารถเปิดออกได้ มีการบรรจุพระธาตุของพระอรหันตสาวก 5 พระองค์ คือ 1.พระธาตุของพระสารีบุตรเถระ 2.พระธาตุของพระโมคคัลลานเถระ 3.พระธาตุของพระสีวลีเถระ 4.พระธาตุของพระองคุลีมาลเถระ 5.พระธาตุของพระภิกษุณีพิมพาเถรี
มีตำนานเล่าขานกันว่า หลวงพ่อเหลือ เป็นพระพุทธรูปองค์เดียวในวัดสร้อยทองที่รอดพ้นจากภัยระเบิดที่ตกมาใส่บริเวณวัดสร้อยทอง และไม่สามารถทราบได้ว่าเพราะเหตุใด เครื่องบินฝ่ายพันธมิตรจึงทิ้งระเบิดทำลายสะพานพระรามหกผิดพลาด จนทำให้ลูกระเบิด 14 ลูก ตกมาถล่มใส่วัดสร้อยทองได้รับความเสียหายอย่างหนัก
เหตุที่ทราบว่าเป็นลูกระเบิด 14 ลูก เพราะมีการนับหลุมระเบิดที่ปรากฏในบริเวณวัดภายหลังการทิ้งระเบิดสิ้นสุด อานุภาพของลูกระเบิดทำให้คนที่อยู่สุดคลองบางซ่อนที่หลบภัยอยู่ในท้องร่องสวน เล่าถึงความสั่นสะเทือนของผิวน้ำในท้องร่องสวนที่ปรากฏอยู่ตรงหน้า ทั้งๆ ที่ห่างไกลจากวัดสร้อยทองถึง 3 กิโลเมตร
การรอดพ้นจากภัยของระเบิดที่ทิ้งลงมาแบบปูพรม ทำให้นามของหลวงพ่อเหลือ เป็นที่กล่าวถึงและมีประชาชนศรัทธาเลื่อมใสในความศักดิ์สิทธิ์มากยิ่งขึ้น
ภายหลังเกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 วัดสร้อยทองถูกระเบิด สิ่งที่เหลืออยู่ คือ หอระฆัง, เจดีย์ และองค์หลวงพ่อเหลือ ทั้งนี้ องค์หลวงพ่อเหลือได้รับผลกระทบเล็กน้อยบริเวณปลายพระหนุด้านขวาและที่พระหัตถ?
ต่อมา ร.อ.เจริญ สุภาพงษ์ ซึ่งพักอาศัยอยู่ในคลองบางซ่อนที่บ้านตระกูลภรรยา ได้ขอให้นายทหารช่างมาช่วยตกแต่งองค์หลวงพ่อเหลือ เมื่อมีการปัดฝุ่นองค์หลวงพ่อเหลือ พบว่าส่วนเกศของหลวงพ่อเหลือเปิดออกได้ จึงเปิดดูพบผงทราย
คุณลุงแม้น สรรพานิช ซึ่งอยู่ในเหตุการณ์เปิดดูใหม่ในภายหลัง และคุ้ยผงทรายเหล่านั้น พบพระธาตุ 5 พระองค์นั้น จึงนำไปให้หลวงพ่อรวย เจ้าอาวาส
คุณตาสวัสดิ์ แม้นชื้น ผู้ใหญ่บ้านแห่งคลองบางเขน ได้พบเห็นพระธาตุนั้นท่านมีความรู้เรื่องพระธาตุ ได้บอกลักษณะพระธาตุทั้ง 5 พระองค์นั้น ว่าเป็นพระอรหันตสาวกธาตุ
ต่อมา หลวงพ่อรวย ได้บรรจุพระอรหันตธาตุทั้งหมดไว้ที่เดิมคือภายในเกศของหลวงพ่อเหลือ โดยใส่ถ้วยผอบ ซึ่งมารดาของคุณตาเสงี่ยม ครุฑนาค ได้ถวายให้หลวงพ่อรวยไว้ หลวงพ่อรวยเคยเล่าให้คุณลุงแม้นฟังว่า ท่านเคยเห็นดวงไฟวิ่งไปมาระหว่างองค์ หลวงพ่อเหลือ กับพระพุทธรูปปางปาลิไลยก? ซึ่งประดิษ ฐานไว้หน้าอุโบสถ
สำหรับประวัติวัดสร้อยทอง เดิมชื่อ วัดซ่อนทอง เป็นวัดเก่ามีมานาน สร้างขึ้นประมาณปี พ.ศ.2394 ไม่ทราบนามและประวัติของผู้สร้าง สันนิษฐานว่าคงเป็นผู้ที่สืบเชื้อสายมาจากเจ้าพระยาศรีพิพัฒน์ (แพ บุนนาค) ในสมัยรัชกาลที่ 4
สถานที่ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณปากคลองบางซ่อน มีเลขทะเบียนปกครองที่ 1319 พื้นที่ทั้งหมดในปัจจุบัน มีจำนวน 15 ไร่ 3 งาน 78 ตารางวา
อาณาเขตทิศเหนือ ติดกับถนนประชาราษฎร์ ทิศใต้ ติดกับคลองบางซ่อน ทิศตะวันออก ติดกับพื้นที่ของกระทรวงกลาโหม ทิศตะวันตก ติดกับแม่น้ำเจ้าพระยา
วัดสร้อยทอง มีพื้นที่เป็นลักษณะสี่เหลี่ยมมีความยาวติดต่อกับแม่น้ำเจ้าพระยาประมาณ 80 เมตร
ภายในวัดมีปูชนียวัตถุที่สำคัญคือ พระพุทธรูปนามว่า หลวงพ่อเหลือ
วัดสร้อยทองได้รับการยกฐานะจากวัดราษฎร์เป็น พระอารามหลวงชั้นตรี ชนิดสามัญ เมื่อวันที่ 13 เดือนเมษายน 2545
ปัจจุบัน มีประชาชนให้ความเลื่อมใสศรัทธาและกราบไหว้บูชาขอพรหลวงพ่อเหลือ ด้วยเชื่อว่า หลวงพ่อเหลือจะดลบันดาลโชคลาภ แคล้วคลาดปลอดภัยจากภัยอันตรายต่างๆ นอกจากนี้ นามอันเป็นมงคล คำว่า "เหลือ" ยังมีความหมายถึง ความร่ำรวยเหลือกินเหลือใช้
คาถาบูชาหลวงพ่อเหลือ
(สวดนะโม 3 จบ)
นะโมพุทธายะ นะเหลือดี โมเหลือยิ่ง พุทเหลือใช้ ธาเหลือล้น ยะเหลือรวย