TBS234
พระบูชาพระพุทธนิมิตวิชิตมาร วัดหน้าพระเมรุราชิการาม
หน้าตัก 5 นิ้ว
เนื้อทองเหลือง
พระนครศรีอยุธยา
เสริมสิริมงคลชีวิต
คาถาบูชา พระพุทธนิมิตวิชิตมารโมลีศรีสรรเพ็ชญบรมไตรโลกนาถ
นะโม ๓ จบ
พุทธนิมิตตัง อหังวันทา ขมามิหัง
พุทธนิมิตตัง สหัสสะโกติเทวตานัง
พุทธนิมิตตัง สาธุ รูปานัง
อิติสุคะโต อะระหังพุทโธ นะโมพุทธายะ
ปฐวีคงคา พระภูมะเทวา ขมามิหัง
วัดหน้าพระเมรุราชิการาม พระนครศรีอยุธยา
เมื่อ ครั้งเสียกรุงศรีอยุธยานั้น เปลวไฟสงครามได้เผาผลาญราชธานีที่เคยวิจิตรอลังการราวกับนครแห่งทวยเทพนั้น มอดไหม้ลงเหลือเพียงเถ้าถ่าน และซากปรักหักพัง มีเพียงวัดแห่งเดียวที่รอดพ้นจากความเสียหายแห่งสงคราม คือวัดหน้าพระเมรุราชิการาม ซึ่งถือเป็นมรดกอันล้ำค่า ที่ฝากร่องรอยความเจริญรุ่งเรืองทางวัฒนธรรมแห่งราชธานีเก่า ทีเหลือไว้ให้คนรุ่นปัจจุบันได้ประจักษ์
มีตำนานกล่าวไว้ว่า วัดหน้าพระเมรุราชิการาม นั้นสร้างขึ้นโดยพระองค์อินทร์ในปี พ.ศ.2047 ซึ่งตรงกับรัชกาลของสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 2 แห่งกรุงศรีอยุธยา สันนิษฐานว่าที่มาของขื่อวัดหน้าพระเมรุราชิการาม หรือที่เรียกว่าวัดหน้าพระเมรุนั้น มาจากทำเลที่ตั้งของวัดซึ่งได้สร้างขึ้นตรงที่ถวายพระเพลิงพระบรมศพ กษัตริย์ พระอุโบสถของวัดหน้าพระเมรุนั้นมีขนาดใหญ่ถึงเก้าห้อง เป็นสถาปัตยกรรมอยุธยาตอนกลาง ทีมีหน้าบันจำหลักไม้รูปพระนารายณ์ทรงครุฑที่งามวิจิตร ภายในพระอุโบสถแห่งนี้เป็นที่ประดิษฐาน “พระพุทธนิมิตวิชิตมาร โมลีศรีสรรเพชญ์บรมไตรโลกนาถ” ซึ่งเป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัยศิลปะอยุธยา ถือเป็นพระพุทธรูปทรงเครื่องอย่างกษัตราธิราชที่มีความสมบูรณ์ และมีขนาดใหญ่ที่สุดเท่าที่มีปรากฏในปัจจุบัน องค์พระเป็นเนื้อสัมฤทธิ์ปิดทองขนาดใหญ่ ตามคติการสร้างในสมัยอยุธยาตอนต้น แต่สันนิษฐานว่ามีการบุรณะครั้งใหญ่สมัยสมเด็จพระเจ้าปราสาททอง เนื่องจากพบว่าศิลปะแห่งเครื่องทรงและพระพุทธลักษณะที่คล้ายคลึงกับพระพุทธ รูปปูนก่ออิฐภายในพระระเบียงวัดไชยวัฒนาราม อันเป็นวัดที่สร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าปราสาททอง
ในสงครามเมื่อครั้งเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่ 2 นั้น ข้าศึกได้ใช้วัดหน้าพระเมรุเป็นที่ตั้งกองบัญชาการรบ จึงทำให้วัดแห่งนี้สามารถรอดพันจากการถูกทำลายและอยู่ในสภาพสมบูรณ์ โดยภายในวัดยังมีสิ่งที่ทรงคุณค่าอื่นๆ อีก ทั้งพระวิหารที่ประดิษฐานพระคันธารราษฎร์ ซึ่งเป็นพระพุทธรูปศิลปะสมัยทวารวดี ปางปฐมเทศนา ซึ่งพบเพียงหกองค์ในโลกนี้เท่านั้น