TBS234
พระบูชาหลวงพ่อเพชร วัดโรงช้าง
หน้าตัก 5 นิ้ว ฉลองเจดีย์พระไตรปิฎก
พุทธาภิเษก 14 เมษายน 2554 จัดสร้าง 249 องค์
อำเภอเมือง จังหวัดพิจิตร
เสริมสิริมงคลชีวิต
วัดโรงช้าง ตั้งอยู่ที่ตำบลโรงช้างทางทิศใต้ของตัวเมือง การเดินทางใช้เส้นทางพิจิตร-สามง่าม-วังจิก ทางหลวงหมายเลข ๑๑๕ และทางหลวงหมายเลข ๑๐๖๘ ประมาณหลักกิโลเมตรที่ ๕ วัดนี้เป็นวัดเก่าแก่สมัยกรุงศรีอยุธยาเมื่อสมัยพระยาโคตรบองขึ้นครองราชย์ สถานที่แห่งนี้เรียกว่า “กองช้าง” เพราะเป็นที่พักของกองช้าง ต่อมาได้เรียกกันเพี้ยนไปเป็น “คลองช้าง” จนกระทั่งทางราชการได้เปิดโรงเรียนประชาบาลขึ้นที่วัดนี้ จึงได้เปลี่ยนชื่อเป็น “วัดโรงช้าง” บริเวณวัดโรงช้างมีพระพุทธรูปใหญ่อยู่กลางแจ้ง ๓ องค์ เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย ปางห้ามญาติ และปางไสยาสน์ สิ่งที่น่าสนใจของวัดนี้คือเจดีย์องค์ใหญ่สร้างขึ้นเมื่อพ.ศ. ๒๕๑๗ บริเวณรอบองค์เจดีย์มีตู้พระไตรปิฎก จำนวน ๑๐๘ ตู้ เพื่อให้ประชาชนทั่วไปได้ทำบุญใส่ตู้เพื่อเป็นสิริมงคล และภายในองค์เจดีย์ได้สร้างเป็นห้องลับใต้ดินเพื่อใช้สำหรับเก็บแผ่นอิฐ จารึกพระไตรปิฎก จำนวน ๘๔,๐๐๐ พระธรรมขันธ์ โดยได้เล็งเห็นและสันนิษฐานว่า ในอนาคตอาจมีเหตุการณ์ที่คาดไม่ถึง เช่น สงครามนิวเคลียร์ซึ่งอาจทำให้พระไตรปิฏกสูญหายจากโลกได้
พระครูพิลาศธรรมกิตต์หรือหลวงพ่อทวี
ท่านเกิดเมื่อวันที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2454
ตรงกับวันอังคาร แรม 3 ค่ำ เดือน 11 ปีกุน
ณ บ้านโรงช้าง อ.เมือง จ.พิจิตร อุปสมบทเมื่อายุครบ 21 ปี ตรงกับวันที่ 26 มีนาคม 2475 และได้เดินทางไปศึกษาเล่าพุทธาคมที่วัดพระเชตุพนฯ กับสมเด็จพระพุฒาจารย์ (เข้ม) หลังจากที่ศึกษาจนแตกฉานแล้วท่านได้กลับมาจำพรรษาที่วัดโรงช้างและได้ดำรง ตำแหน่งเป็นเจ้าอาวาส หลวงพ่อทวีท่านเป็นพระสงฆ์ที่เคร่งวินัยมาก(ดุมาก)ในครั้งที่บวชพระ นาคองค์ใดท่องขันนาคไม่ได้ ไม่มีการสอน ท่องไม่ได้ก็ไม่ต้องบวช รอจนกว่าจะท่องกันได้ กว่าจะบวชเสร็จเย็นค่ำ หลวงพ่อทวีได้เป็นผู้ริเริ่มจารึกพระไตรปิฏกลงบนแผ่นอิฐ จำนวน 1,500 คัมภีร์ ทั้งหมด 84,000 พระธรรมขันธ์ เก็บรักษาบรรจุไว้ในพระเจดีย์ของวัดโรงช้าง เจตนารมณ์ของท่านที่จารึกพระไตรปิฎกลงบนแผ่นอิฐก็เพราะเนื่องจากหลวงพ่อทวี กลัวระเบิดนิวเคลียร์ทำลายพระไตรปิฎกที่เป็นใบลาน อันนี้เป็นความคิดของท่าน (ความคิดที่แปลกของหลวงพ่อทวี รายการเกมทศกัณฑ์ยังเคยนำไปออกเป็นคำถามเลยครับ) และยังมีพระเกจิอาจารย์ในยุคนั้นเช่น หลวงพ่อขวัญ วัดบ้านไร่ หลวงพ่อแวว วัดคลองคู้ ที่มาช่วยหลวงพ่อทวีจารอักขระลงแผ่นอิฐ หลวงพ่อทวีมรณะภาพในปี พ.ศ. 2530 รวมศิริอายุได้ 76 ปี สังขารของหลวงพ่อทวีได้ถูกบรรจุลงในโลงไม้ธรรมดานานหลายปีเพื่อรอการพระราช ทานเพลิง เป็นระยะเวลา 23 ปี ศิษยานุศิษย์ได้ทำการเปิดโลงออก ปรากฏว่าสรีระของหลวงพ่อทวีไม่เน่าเปื่อยไปตามกาลเวลา ศิษยานุศิษย์จึงร่วมทุนทรัพย์สร้างวิหารเพื่อนำสรีระหลวงพ่อทวีบรรจุลงในโลง แก้วแล้วนำประดิษฐานไว้ในวิหารหลวงพ่อทวีในวันที่13 เมษายน 2553 ที่ผ่านมา ส่วนวัตถุมงมลที่หลวงพ่อทวีท่านจัดสร้างนั้น ในพิธีปลุกเสกวัตถุมงคลยังมีพระเกจิอาจารย์ร่วมยุคสมัยของหลวงพ่อทวีมาร่วม ปลุกเสเด้วย อย่างเช่น ,พระฑีฆทัสสีมุนีวงศ์หรือหลวงพ่อไป๋ วัดท่าหลวง พิจิตร ผู้สร้างเหรียญหล่อหลวงพ่อเพชร พิมพ์สามเหลี่ยมหน้าจั่ว และตะกรุดกระดูกแร้ง อันโดงดัง ,หลวงพ่อเตียง วัดเขารูปช้าง พิจิตร ศิษย์หลวงพ่อพิธ วัดฆะมัง ผู้สร้างตะกรุดคู่ชีวิตอันลือลั่น ,หลวงพ่อแวว วัดคลองคู้ ศิษย์หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า หลวงพ่อแววเป็นผู้ที่นำพระขรรค์โสฬสเล่มในตำนานของหลวงปู่ศุขติดตัวมาด้วย หลังจากที่หลวงปู่ศุขมรณะภาพ และเป็นพระขรรค์ที่ท่านขุนพันฯ ตามหามาตลอดชีวิต ขุนพันฯได้ขอพระขรรค์กับหลวงพ่อแวว แต่หลวงพ่อแววขอผลัดผ่อนไม่ยอมให้ไป จนกระทั่งหลวงพ่อแววมรณะภาพ พระขรรค์โสฬสก็สืบทอดไปอยู่กับศิษยาณุศิษย์แล้วก็สูญหายไปในที่สุด และหลวงพ่อแววยังเป็นสหายของหลวงพอทวี เคยมาจำพรรษาที่วัดโรงช้าง ช่วยหลวงพ่อทวีจารพระไตรปิฎกลงแผ่นอิฐ ,หลวงพ่อขวัญ วัดบ้านไร่ พิจิตร ผู้สร้างแหวนตะกร้อ ,หลวงพ่อเล วัดประทม พิจิตร ,หลวงพ่ออุ่น วัดเขื่อน พิจิตร ,หลวงพ่อทองดี วัดนครชุม พิจิตร เป็นต้น