TBS234
พระบูชา หลวงพ่อใหญ่ วัดบางหลวง
หน้าตัก 5 นิ้ว ( เนื้อทองเหลืองพ่นทอง )
อำเภอ เมือง จังหวัดปทุมธานี เสริมสิริมงคลชีวิต
หลวงพ่อใหญ่ พระประธานปางมารวิชัยในพระอุโบสถทรงไทยโบราณเป็นพระประธานที่เก่าแก่และใหญ่ที่สุดในจังหวัดปทุมธานี
พุทธาภิเษกรูปหล่อจำลอง"หลวงพ่อใหญ" ณ วัดบางหลวง วันเสาร์ ที่ ๕ กันยายน พ.ศ. ๒๕๕๒
โดยมีพระนั่งปรกอธิฐานจิต โดยพระเถราจารย์ดังนี้
1.พระสมเด็จพระมหาธีราจารย์ วัดชนะสงคราม(ประทานจุดเทียนชัย)
2.พระราชปริยัตยาภรณ์ วัดเขียนเขต(ประทานดับเทียนชัย)
3.หลวงพ่อลำดวน วัดโสการาม
4.หลวงพ่อแม้น วัดหน้าต่างนอก
5.หลวงพ่อฟู วัดบางสมัค
6.หลวงพ่อพระมหาสุรศักดิ์ วัดประดู่
7.หลวงพ่อเพิ่ม วัดป้อมแก้ว
8.หลวงพ่อพูน วัดบ้านแพน
9.หลวงพ่อชำนาญ วัดบางกุฏีทอง
10.หลวงปู่เจือ วัดกลางบางแก้ว
11.พระอธิการสุนทร ฐานวโร วัดสุทธาวาส
12.หลวงพ่ออ้อน วัดบางตะไนย์
13.หลวงพ่อเสาร์ วัดดอนหญ้านาง
14.หลวงพ่อปรีชา วัดเขาอิติสุคโต
15.หลวงปู่อินทร์ วัดกลางครองสี่
16.พระปลัดละมูล อาวุโท วัดสุราษฏร์รังสรรค์
17.พระครุปทุมรัตนาธาร วัดจันทาราม
วัดบางหลวง เป็นวัดโบราณที่มีอายุยาวนานกว่า 300 ปี โดย พระรามัญมุนี ( สุทธิ์ ญาณรสี) อดีตเจ้าอาวาสวัดบางหลวง และอดีตเจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี ได้บันทึกไว้ เมื่อ พุทธ ศักราช 2451 ว่า "วัดบางหลวงใน หรือวัดบางหลวงไหว้พระนี้ แต่ ก่อนมิได้สร้างวัดนี้เป็นทำเลพงแขม รก ด้วยหญ้าลัดดาวัลย์ เป็นที่อาศัยของสัตว์จตุบาทวิบาท มีเสือดาว กวางทราย เป็นต้น มีลำคลอง เข้าไปทุ่งนาแห่งหนึ่งเรียกคลองบางหลวง พง ป่ารกชัฏตามริมคลองเป็นที่เปล่าเปลี่ยวผู้ คนไปมา คลองนี้แต่ก่อนกว้างประมาณ 3 – 4 วา และมีจระเข้ตัวเล็ก ๆ ชุกชุม มัจฉา ชาติก็มาก สกุณชาติต่าง ๆ ก็มาก อาศัยอยู่ ตามต้นไม้ พวกพรานเที่ยวสัญจรหาละมั่งกวางทราย จับนกจับปลาไปไว้เป็นภักษาหาร ครั้นมนุษย์มาก ขึ้นความเจริญของภูมิประเทศก็ดีขึ้นทุกขั้น ต่อมาเมื่อประมาณ พุทธศักราช 2246 หรือจุลศักราช 1065 สมเด็จพระสรรเพ็ชรที่ 8 ทรงพระนามเดิม ว่า "พระพุทธเจ้าเสือ" (ดอกเดื่อ) เป็นพระเจ้าแผ่นดินในพระนครศรีอยุธยาทาราวดี คือกรุงเก่าได้ ทรงสร้างวัดนี้ขึ้นที่ตำบลปากคลองบางหลวง ฝั่งใต้ พระราชทานนามว่า "วัดสิงห์"
ในบันทึกนี้น่าจะเป็นความจริงอยู่มาก เพราะวัดบางหลวงมี ๒ วัด คู่ กัน คือ วัดบางหลวงนอก กับวัดบางหลวงใน วัดบางหลวงในคือวัดบางหลวงที่อยู่ปัจจุบันนี้ ส่วน วัดบางหลวงนอกได้ทรุดโทรมปรักหักพังร้าง ไปหมดแล้ว
เจ้าอาวาสวัดบางหลวง แทบทุกรูปได้สนใจการศึกษามาโดย ตลอด เช่น พระราชสุเมธภรณ์ (มังกรกัสสโป) ได้จัดตั้งโรงเรียนพระปริยัติธรรมแผนกบาลี สามเณรอุทัย เกลี้ยงเล็ก ศิษย์ของท่านสอบบาลีได้เปรียญธรรม 9 ประโยค อุปสมบทเป็นนาคหลวง ในรัชกาลสมเด็จพระ เจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชเมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม พุทธศักราช 2506 และปัจจุบัน พระสุเมธาภรณ์ ( เทียน ฐานุตตโม) เจ้าคณะจังหวัดปทุมธานีก็ได้ เปิดสอนพระปริยัติธรรมแผนกบาลีต่อมา ส่วนการ ศึกษาภาษาไทยเกี่ยวกับวิชาทางโลกนั้นพระรามัญ มุนี (มะลิ บัญติโต) ได้ส่งเสริมสนับสนุนการศึกษาของเยาวชนของชาติ โดยจัดตั้งโรง เรียนมัธยมศึกษาขึ้นในบริเวณวัด ตั้งแต่วันที่ 10 มีนาคม พุทธศักราช 2476 ให้ชื่อโรงเรียนว่าโรง เรียนปทุมธานีนันทมุนีบำรุงซึ่งยังเปิดทำการสอนมาจนปัจจุบัน
ข้อสันนิษฐาน : วัดบางหลวงนอก น่าจะสร้างมาก่อนสมัยพระเอกาทศรถขึ้นครองราชย์ ครั้นมาถึงสมัยพระเอกาทศรถขึ้นครองราชย์แล้วพระองค์ได้ทรงเกณฑ์คนขุดคลองลัด เตร็ดใหญ่จากวัดไก่เตี้ย ตัดทรงลงมาทะลุคลองบางหลวงเชียงรากตรงวัดศาลเจ้า เมื่อปีพุทธศักราช 1251 ในการขุดคลองคราวนี้ ได้พบพระ พุทธรูปสมัยเชียงรากแสนองค์หนึ่ง ขนาดหน้าตัก กว้าง 2 ศอกเศษ กล่าวกันว่าเมื่อพบพระพุทธรูปแล้ว ชาวบ้านได้ช่วยกันเอาซุกซ่อนไว้ไม่ให้หลวงหรือทางราชการเห็น โดยเอาพระพุทธรูปซ่อนไว้ที่วัดบางหลวงนอก ซึ่งเดิมทีเมื่อสร้างวัดใหม่ ๆ สันนิษฐานว่าวัดไม่ได้ชื่อวัดบางหลวงคงชื่ออื่น ต่อมาเมื่อภายหลังขุดคลองลัดเตร็ดใหญ่ พบพระพุทธรูปเชียงแสนเอาหลบซ่อนไว้ในวัดเรียกว่าบังไม่ให้หลวงเห็น จึงพูดกันติดปากว่า "บังหลวง" หรือวัดบังหลวง เมื่อเวลาผ่านเลยมานาน คำว่า "บังหลวง " จึงกลายเป็น "บางหลวง" พระพุทธรูป องค์นี้ปัจจุบันก็ยังคงอยู่ มีพุทธศาสนิก ชนพากันมาเคารพสักการะกราบไหว้กันอยู่เสมอ พอถึงเทศกาลงานประจำปี วันแรม ๔ ค่ำ เดือน ๑๑ จะมีประชาชนมากราบไหว้นมัสการกัน มากมิได้ขาด จนล่ำลือไปทั่ว ชาวบ้าน พูดกันติดปากว่า "บางหลวงไหว้พระ" เป็นที่รู้จักกันโดยทั่วไป
หลักฐานในวรรณกรรม: ในรัชกาลพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬา โลกมหาราช พระองค์ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ พระมอญมาเป็นสมภารเจ้าวัดฝ่ายรามัญ ซึ่งใน พระราชพงศาวดารฉบับกรมพระปรมานุชิตชิโนรส กล่าว
"……อนึ่ง พระราชคณะฝ่ายรามัญนั้นยังหา ตัวมิได้ จึงทรงพระกรุณาให้จัดพระมหา เถระฝ่ายรามัญซึ่งรู้พระวินัย ปริยัติได้ ๓ รูป ทรงตั้งเป็นพระมหาสุเมธาจารย์องค์หนึ่งพระ ไตรสรณธัชองค์หนึ่ง พระสุเมธน้อยองค์หนึ่ง เมื่อ สมเด็จพระอนุชาธิราชกรมพระราชวังบวรสถาน มงคลทรงสร้างวัดตองปุขึ้นใหม่ โปรดให้พระ สงฆ์รามัญมาอยู่วัดตองปู และให้พระสุเมธ จารย์เป็นเจ้าอาวาส พระไตรสรณธัชนั้นมีพระ ราชโองการให้อยู่วัดบางหลวง เป็นเจ้าคณะรามัญ แขวงเมืองนนทบุรีและสามโคก พระสุเมธน้อยนั้นโปรด ให้ครองวัดบางยี่เรือใน………"
เมื่อสิ้น แผ่นดินพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย รัช กาลที่ ๒ แล้ว สุนทรภู่ขาดที่พึ่ง ต้องระทม ทุกข์หนักระเหเร่ร่อนนับเป็นชีวิตที่ทุกข์ เข็ญมาก บวชอยู่วัดราชบูรณะได้ ๓ พรรษาก็ มีมารมารังแก ต้องลงเรือน้อยลอยลำขึ้น ไปนมัสการภูเขาทอง เพื่อสะเดาะเคราะห์เสียให้สิ้น หนูพัด และลูกศิษย์ติดตามไปด้วยได้เขียน นิราศภูเขาทอง กล่าวถึง บางหลวงว่า
" ถึงบางหลวงเชิงรากเหมือนจากรัก สู้ เสียศักดิ์สังวาสพระศาสนา"
ปฏิทินวัฒนธรรม:วัดบางหลวงจะจัดกิจกรรมทุกวันสำคัญทางพุทธศาสนา โดยมีกิจกรรมสำคัญดังนี้
1. ประเพณีปิดทองหลวงพ่อเพชรจัดขึ้นทุกปีในวันแรม 4 ค่ำเดือน 11 เป็นงานประจำปีของวัด จะมีการทำบุญตักบาตรในภาคกลางวัน
2. ประเพณีตักบาตรพระร้อยหลังออกพรรษาทุกปี
3. ประเพณีสงกรานต์ จะมีกิจกรรมสรงน้ำพระ
วัดบางหลวงมีสิ่งที่สำคัญ คือ พระอุโบสถทรงไทยโบราณที่กรมศิลปากรได้ขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถาน พระอุโบสถทรงไทยโบราณสร้างขึ้นในสมัยอยุธยา เป็นศิลปะที่พิเศษ คือ ไม่มีเสาและใช้วัสดุก่อสร้างแบบโบราณ